ความเป็น นวัตกร การศึกษา (Educational Innovator) ตอนที่ 2
ความเป็น นวัตกร (Innovator) ทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ:
การศึกษาทฤษฎีฐานราก (Grounded Theory) ตอนที่ 2
วสันต์ สุทธาวาศ : เรียบเรียง
ความเดิม ตอนที่ 1 : ความหมายและคุณลักษณะของนวัตกรการศึกษา ด้านความสามารถ
2.2 ด้านพฤติกรรม เป็นการกระทำหรือลักษณะที่แสดงออกมาให้สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ในระดับของความเป็นนวัตกรทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ ประกอบด้วย
– ความกระหายในการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ คือ พฤติกรรมที่แสดงออกถึงสัญชาติญาณ แห่งการอยากได้อยากมีสิ่งใหม่ๆ ทั้งปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิต และผลลัพธ์ ซึ่งมีความต้องการอย่างยิ่ง ที่จะแสวงหาและปฏิบัติโดยแสดงความกระตือรือร้น มีความตื่นเต้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ ในการปฏิบัติงาน และการพัฒนาการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
– ความช่างสังเกต คือ พฤติกรรมที่แสดงออกถึงความละเอียดลออ จากการปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม ไวต่อความเป็นอยู่ ปฏิกิริยา และการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทางการศึกษาในภาพรวม รวมทั้ง องค์การ บุคคล และการปฏิบัติงาน โดยรอบรู้ทุกอย่างรอบตัว ทำให้ประเมินสถานการณ์ต่างๆ ได้รวดเร็ว
– การมีข้อสงสัย ตั้งคำถาม และหาคำตอบ คือ พฤติกรรมที่แสดงออกถึงการมีข้อสงสัยกับสิ่งรอบตัว และตั้งคำถามกับสิ่งนั้นอยู่เสมอ เช่น กระบวนการพัฒนาการศึกษาที่ใช้อยู่มีประสิทธิภาพหรือไม่? เป็นความสำเร็จที่แท้จริงหรือภาพลวงตา? อะไรที่เป็นปัจจัยความสำเร็จ? เป็นต้นซึ่งจะนำไปสู่วงจรในการค้นหาคำตอบ เพื่อค้นหาแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่ดีขึ้นอยู่เสมอ
– ความละเอียดรอบคอบ คือ พฤติกรรมที่แสดงออกถึงการให้ความสำคัญกับรายละเอียด ของการปฏิบัติงานในทุกแง่มุมอย่างรอบด้าน พินิจพิเคราะห์ และตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล กระบวนการ รวมถึงผลลัพธ์และผลกระทบ จากการดำเนินงานและผลผลิตที่ส่งมอบไปยังระบบการศึกษา
– การเปิดใจและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น คือ พฤติกรรมที่แสดงออกถึง ความเข้าอกเข้าใจและยอมรับเหตุผลของผู้อื่น รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างด้วยใจที่ปราศจากอคติ ทั้งกับผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง และผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบุคลากรทางการศึกษาในระดับภูมิภาคซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติและมีความใกล้ชิดกับนักเรียน ย่อมจะสะท้อนแนวคิดในทางปฏิบัติได้ลึกซึ้ง
– ความมุ่งมั่นและปฏิบัติงานต่อเนื่อง คือ พฤติกรรมที่แสดงออกถึงความตั้งใจจะปฏิบัติราชการให้ดี หรือให้เกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ ด้วยความเพียรและทุ่มเทเวลาให้กับการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่หยุด ไม่ละทิ้ง และไม่ลดคุณภาพของการปฏิบัติงาน
– ความอดทนไม่ย่อท้อ คือ พฤติกรรมที่แสดงออกถึงจิตใจอันหนักแน่น มั่นคง มีใจสู้ กายสู้ พร้อมที่จะปฏิบัติงานที่ยาก และเผชิญเหตุการณ์ต่างๆโดยไม่รู้สึกหวั่นไหวอดทนต่อสภาพแวดล้อมขององค์การภาครัฐ ความอดทนต่อความคับแค้นใจ อดทนต่อการเชื่อฟัง และอดทนต่อความเหนื่อยยากจากการทำงาน
– การประพฤติตนเป็นต้นแบบทางราชการและการศึกษา คือ พฤติกรรมที่แสดงออกถึงการยึดถือและปฏิบัติตามระเบียบ ธรรมเนียมแบบแผนของทางราชการและองค์การทางการศึกษา กล้าหาญยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และประพฤติปฏิบัติตนได้ควรค่าแก่การยกย่องสรรเสริญให้เป็นแบบอย่างที่ดี
2.3 ด้านทัศนคติ เป็นความรู้สึก ความคิดเห็น และการรู้ของบุคคลที่มีต่อ สิ่งของ บุคคล องค์การสถานการณ์ และข้อเสนอใดๆ ซึ่งมีผลต่อปฏิกิริยาตอบสนองเชิงพฤติกรรม ในระดับของความเป็น นวัตกร ทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ ประกอบด้วย
– การมีจิตอาสาและรักษาประโยชน์ส่วนรวม คือ การมีความตระหนักรู้ และคำนึงถึงสังคมส่วนรวม มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองทั้งในฐานะของข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงพร้อมที่จะเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม
– การคิดเชิงบวก คือ การมองสิ่งต่างๆ อย่างเข้าใจ และยอมรับได้ในด้านลบ มองปัญหา ความทุกข์ ความไม่ราบรื่นเป็นเรื่องธรรมดา รู้จักเลือกใช้ประโยชน์จากด้านบวกที่แฝงอยู่ในสิ่งนั้น มองอุปสรรค เป็นโอกาส คิดในแง่ที่สร้างสรรค์และจรรโลงจิตใจ รวมถึงไม่กลัวต่อการเปลี่ยนแปลงจากบริบทแวดล้อมต่างๆ
– การเชื่อมั่นในงาน ผู้ร่วมงาน และตนเอง คือ การปฏิบัติงานด้วยความไว้ใจและ ความมั่นใจต่อศักยภาพ ความถูกต้อง และคุณค่าของงานที่ทำ เพื่อนร่วมงาน และตนเอง ให้สำเร็จได้ตามที่ตั้งใจไว้ และบรรลุเป้าหมายทางการศึกษา
– การให้เกียรติตนเองและผู้อื่น คือ การตระหนักถึงความมีค่าของตนเอง เพื่อนร่วมงาน และผู้อื่น รู้จักถ่อมตนและยอมรับในความสามารถของผู้อื่น ใช้กริยาวาจาสุภาพ อ่อนน้อม ประพฤติปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพไม่หยิ่งทะนง ถือตัว จองหอง และกดทับผู้อื่น
– การตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาและเยาวชน คือ การมีทัศนะต่อการศึกษาว่าเป็นรากฐานที่ส่งเสริมความเจริญมั่นคงทุกของประเทศชาติโดยมีเยาวชนเป็นทรัพยากรมนุษย์และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ จึงควรได้รับการศึกษา อบรม และฝึกฝนให้เจริญงอกงามทั้งในด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และจิตใจให้มีคุณธรรม ความรู้ ความคิด และความประพฤติ ที่เหมาะสม
– การมีความภาคภูมิใจและซาบซึ้งในคุณค่าความเป็นข้าราชการ คือ การมีใจรัก เต็มใจ และตระหนักถึงคุณค่าภาระสำคัญในการรับใช้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทุ่มเทและเสียสละปฏิบัติหน้าที่ตามรอยพระยุคลบาท โดยมุ่งประโยชน์ของนักเรียน ระบบการศึกษา และประชาชนส่วนรวม เพื่อความมั่นคงและเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติอย่างเต็มกำลังความสามารถและมีความสุข
สรุปผลการศึกษา
สำหรับข้อสรุปเชิงทฤษฎีของการศึกษา มีดังนี้
1. นวัตกร (Innovator) ทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ คือ ผู้ที่ริเริ่ม ประดิษฐ์คิดค้น สร้างสรรค์ และสนับสนุน ให้เกิดเทคนิควิธีการ รูปแบบ เครื่องมือ กระบวนการ หรือผลงาน ที่เป็นนวัตกรรม สำหรับใช้ในการปฏิบัติงาน ของตนเอง องค์การ และส่งมอบไปยังระบบการจัดการศึกษา ซึ่งมีประโยชน์ มีคุณค่า และเหมาะสมต่อการพัฒนาและแก้ปัญหาทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ ดังนั้น บุคลากรทางการศึกษาที่มีศักยภาพหรือเป็นนวัตกรทางการศึกษา จะนำไปสู่การพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยกระบวนการ คือ การโยกย้ายงานและเลื่อนตำแหน่งงาน เป็นกระบวนการสำคัญในการได้มาซึ่งความเป็นนวัตกรทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ กล่าวคือ มีส่วนในการเพิ่มและพัฒนาความสามารถ พฤติกรรม และทัศนคติ จากการได้รับปัจจัยสนับสนุนที่เหมาะสม ตามบริบทของตำแหน่งงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
3. ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การได้รับมอบหมายงานที่ท้าทาย การศึกษาดูงานและฝึกอบรมพัฒนาสมรรถนะ การพัฒนาทัศนคติและแรงจูงใจ การทบทวนการปฏิบัติงาน และการเผชิญกับสิ่งแวดล้อมในองค์การทางการศึกษาภาครัฐ ซึ่งหากมีความเหมาะสมเพียงพอ ก็จะช่วยเสริมสร้างให้เกิดคุณลักษณะสำคัญของนวัตกรทางการศึกษาได้
4. คุณลักษณะสำคัญของ นวัตกร ทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ ด้านความสามารถ ด้านพฤติกรรม และด้านทัศนคติ ซึ่งบุคลากรทางการศึกษาใด มีคุณลักษณะสำคัญดังกล่าว อย่างครบถ้วน เหมาะสม ย่อมจะมีความเป็นนวัตกรทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ
5. ความเป็นนวัตกรทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ ต้องใช้เวลาในการเพาะบ่มให้เกิดคุณลักษณะสำคัญที่ต้องการ โดยดูจากผลลัพธ์ในการปฏิบัติงานที่มีคุณภาพและคุณค่ามากขึ้นจนถึงในระดับ นวัตกรรม
6. สภาพแวดล้อมในองค์การ 2 ประเภท ที่จะผลักดันให้เกิดความเป็น นวัตกร ได้ คือ สภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยม จะเอื้อต่อการสร้างสรรค์และพัฒนา และในอีกแง่มุมหนึ่ง คือ สภาพแวดล้อมที่แย่ ก็จะเป็นแรงขับสู่การเป็น นวัตกร ได้เช่นเดียวกัน
7. การรู้จักที่จะแสวงหาความรู้ มีความสำคัญในเชิงปฏิบัติมากกว่าการมีพื้นความรู้ทางการศึกษา กล่าวคือ การแสวงหาความรู้จะทำให้เกิดความเป็นพลวัตทางความรู้ ได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น มีความทันสมัยและลุ่มลึกในเชิงวิชาการ
8. แรงจูงด้านผลตอบแทนไม่ได้เข้ามาเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความเป็นนวัตกรทางการศึกษา โดยแรงจูงใจหลักมาจากแรงจูงใจด้านจิตใจ ในเรื่องของความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติและตอบแทนคุณแผ่นดิน
ข้อเสนอแนะจากการศึกษา
ข้อเสนอแนะเชิงทฤษฎี
1.การพัฒนาการศึกษาให้ประสบผลสำเร็จ ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของบุคลากรผู้รับผิดชอบการพัฒนาการศึกษาด้วย โดยต้องพิจารณาถึงหลักการของความเป็นนวัตกร ทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ เพื่อสร้างเสริมความสามารถ พฤติกรรม และทัศนคติ ให้มีความพร้อมเหมาะสม
2. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรศึกษาทบทวนเพื่อจัดทำเกณฑ์มาตรฐานสำหรับปัจจัยด้านกระบวนการ และคุณลักษณะสำคัญ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาหรือประเมินความเป็นนวัตกรทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาครัฐ
3. หน่วยงานด้านการพัฒนาบุคลากรในภาครัฐ ควรให้ความสำคัญอย่างจริงจังในระดับนโยบาย เกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพและสมรรถนะในระดับของความเป็น นวัตกร (Innovator) ให้เพิ่มมากขึ้น โดยมีทิศทางและกำหนดเป็นแนวทางพัฒนาที่ชัดเจน
ข้อเสนอแนะในการปฏิบัติ
1.จากการศึกษา พบว่า มีองค์ประกอบในเชิงกระบวนการที่ส่งเสริมให้เกิดความเป็น นวัตกร ดังกล่าว เช่น การโยกย้ายงาน หรือ การศึกษาดูงานและฝึกอบรม เป็นต้น ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ ควรที่จะต้องสร้างระบบและกลไกที่จะสนับสนุนบุคลากรในองค์การให้มีคุณลักษณะสำคัญ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
2.จากการศึกษา พบว่า มีหลักการสำคัญ 2 หลักการ ได้แก่ หลักการเชิงกระบวนการพัฒนานวัตกร และหลักการความเป็นนวัตกรทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ ดังนั้น จึงควรนำหลักการเกี่ยวกับนวัตกรทางการศึกษาที่พบจากงานวิจัยนี้ ไปเผยแพร่และสร้างความตระหนัก ให้ผู้เกี่ยวข้องในทุกระดับเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และกำหนดเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาบุคลากร
3.จากการศึกษา พบว่า มีรูปแบบความสัมพันธ์ของความเป็นนวัตกรทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ ดังนั้น จึงควรสร้างแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) จากหลักการได้มาซึ่งความเป็นนวัตกรทางการศึกษา ขั้นพื้นฐานในภาครัฐและคุณลักษณะสำคัญ เพื่อเป็นแนวทางขยายผลต่อยอดที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ข้อสรุปที่ได้จากการศึกษานี้ คือ สามารถให้ความหมายของ นวัตกร (Innovator) ทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ ได้แก่ ผู้ที่ริเริ่ม ประดิษฐ์คิดค้น สร้างสรรค์ และสนับสนุน ให้เกิดเทคนิควิธีการ รูปแบบ เครื่องมือ กระบวนการ หรือผลงาน ที่เป็น นวัตกรรม (Innovation) สำหรับใช้ในการปฏิบัติงานของตนเอง องค์การ และส่งมอบไปยังระบบการจัดการศึกษา ซึ่งมีประโยชน์ มีคุณค่า และเหมาะสมต่อการพัฒนาและแก้ปัญหาทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ
โดยผ่านกระบวนการโยกย้ายงานและเปลี่ยนตำแหน่งงาน ซึ่งจะได้รับการกระตุ้นและเติมเต็มจากปัจจัยสนับสนุน ที่เหมาะสมจากงานใหม่นั้นๆ อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดเป็นความสามารถ พฤติกรรม และทัศนคติ ที่เป็นคุณลักษณะสำคัญในการก้าวข้ามขีดจำกัดของความเป็นนักวิชาการศึกษา สู่การได้มาซึ่งความเป็นนวัตกรทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ ที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อการศึกษาของชาติอย่างมีคุณค่ายิ่งขึ้นทั้งนี้ นักวิชาการศึกษาหรือบุคลากรทางการศึกษาอื่นที่ขาดศักยภาพในระดับ นวัตกร ทางการศึกษา อาจเป็นเพราะ ขาดการโยกย้ายงานหรือเลื่อนตำแหน่งที่เหมาะสม หรือขาดโอกาสได้รับปัจจัยสนับสนุนที่เหมาะสมและเพียงพอ ต่อการพัฒนาศักยภาพของตน ให้มีคุณลักษณะสำคัญของความเป็นนวัตกรทางการศึกษาได้
อ้างอิงจาก “ความเป็น นวัตกร ทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาครัฐ: การศึกษาทฤษฎีฐานราก” (The Basic Educational Innovator in Public Sector: A Study for Grounded Theory) โดย วสันต์ สุทธาวาศ และ พิทักษ์ ศิริวงศ์ ในวารสารวิชาการ Veridian E-journal ฉบับมนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์และศิลปะ ปีที่ 8 ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2558 อ่านบทความฉบับเต็ม