ยุคหลังสมัยใหม่ และยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร (Postmodern and the Information Age)
ยุคหลังสมัยใหม่ และยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร
(Postmodern and the Information Age)
วสันต์ สุทธาวาศ : เรียบเรียง
องค์การขนาดใหญ่ในยุคปัจจุบันกำลังเข้าสู่ยุคแห่งความสับสนและความไม่แน่นอน จากสภาพแวดล้อม พร้อมๆ กับการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่สามารถนำมาเป็นเครื่องมือและข้อมูลในการปฏิบัติงานและพัฒนาองค์การ แต่เทคโนโลยีสารสนเทศดังกล่าวไม่ได้ตอบสนองอย่างสมบูรณ์เสมอไป เพราะในหลายๆ ครั้ง ที่เกิดความคลาดเคลื่อน ผิดพลาด และบิดเบือนได้
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้แสดงให้เห็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการใช้เทคโนโลยี จาก Technology system ในการจัดการยุค Modern สู่ Information technology ในยุคปัจจุบัน ซึ่งเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการจัดการองค์การ ส่งผลให้ต้องเผชิญกับความยุ่งยาก ซับซ้อน และสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อองค์การที่ต้องทำความเข้าใจความสัมพันธ์อันสับสนดังกล่าว จนทำให้นักคิดหลายๆ คนตั้งคำถามต่อการนำความรู้ทางเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาปรับใช้ในองค์การ ถึงประโยชน์และผลกระทบ ต่อทั้งองค์การและบุคลากร การจัดโครงสร้างองค์การ การตัดสินใจ การกระจายอำนาจ การจ้างผลิต ฯลฯ ซึ่งสุดท้ายแล้วเราจะใช้ประโยชน์หรือจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้มีประสิทธิภาพต่อองค์การได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร ดังนั้น ผู้เขียนจึงนำเสนอบทความที่น่าสนใจต่อการศึกษาถึงการจัดการองค์การในยุค Post modern ไว้ดังต่อไปนี้
“Postmodern Thought in a Nutshell: Where Art and Science Come Together” (William Bergquist)
Bergquist อธิบายว่า โลกของ Postmodern แม้ถูกมองว่าเป็นเพียงกระแสที่ฉาบฉวย และมีความขัดแย้งภายในแนวคิดของตัวมันเอง แต่ก็มีควรมองข้ามมุมมองที่ลึกซึ้งและมีคุณค่าในแง่ของการวิพากษ์ บนพื้นฐานของยุคแห่งการเกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆ รวมถึงอาจเป็นพื้นฐานที่ดีต่อการตั้งทฤษฎีใหม่ๆ เกี่ยวกับองค์การ ภายใต้สภาพแวดล้อมของยุคดังกล่าว ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตามหารากที่หยั่งลึกถึงความเป็นมาของ Postmodernism
โดย Bergquist ได้นำเสนอ ๔ แหล่งที่มา ดังนี้
แหล่งที่ ๑ คือ การอภิปรายและการสนทนา ในทวีปยุโรป (Interllectual debates and Dialogues) เกี่ยวกับยุคโครงสร้างนิยม (Structuralism) ยุคหลังโครงสร้างนิยม (Poststructuralism) แนวคิดการรื้อสร้าง (Deconstruction) ยุคหลังทุนนิยม (Postcapitalism) ทฤษฎีการวิพากษ์ (Critical theory) และแนวคิดสตรีนิยม (Feminism)
แหล่งที่ ๒ คือ การวิจารณ์รูปแบบของศิลปะร่วมสมัย (Critique of contemporary art forms) โดยเฉพาะในสถาปัตยกรรม วรรณกรรม และภาพเขียน รวมทั้งการดำรงชีวิตร่วมสมัย (Contemporary life style)
แหล่งที่ ๓ คือ การวิเคราะห์ทางสังคมของสถานที่ทำงานและเศรษฐกิจ (Social analysis of the workplace and economy)
แหล่งที่ ๔ คือ ทฤษฎีความโกลาหล (Chaos theory) ต่อมา Bergquist ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ของที่มากับลักษณะเฉพาะของยุค Postmodern ที่จะเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาแนวคิดในการจัดการองค์การ
โดยได้วิเคราะห์ไว้ ๔ อรรถบท (Theme) ที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
๑. ทฤษฎีวัตถุวิสัยนิยม กับ ทฤษฎีการสร้างความรู้ในตนเอง (Objectivism versus Constructivism) ทฤษฎีวัตถุวิสัยนิยม (Objectivism) อยู่ในยุคสมัยใหม่ที่ใช้แนวคิดเสรีนิยม (Liberal) และแนวคิดอนุรักษ์นิยม (Conservative) เป็นหลักทั่วไปในการปรับปรุงความเป็นอยู่ของมนุษย์ แก้ปัญหาความขัดแย้ง ฟื้นฟูสิทธิมนุษยชน และใช้จัดระเบียบของโลกหรือชุมชน ซึ่งตรงข้ามกับทฤษฎีการสร้างความรู้ในตนเอง (Constructivism) ที่ใช้สร้างความจริงและคุณค่าของสังคม ซึ่งเลื่อนไหล ยืดหยุ่น เปิดกว้างไปสู่ข้อมูลใหม่ๆ โดยไม่ยึดติดกับความจริงที่เป็นสากลหรือหลักการใดๆ ในอดีต เพราะมีความเชื่อที่ว่าสังคมมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และไม่สามารถคาดการณ์ได้ตลอดเวลา
๒. ภาษาเป็นจริงในตัวมันเอง (Language is itself reality) ภาษา สัญลักษณ์ มีความสำคัญมากกว่าการใช้ในการสื่อสารเกี่ยวกับความจริง (Reality) เป็นการสร้างความรู้โดยใช้ภาษา (Language) ที่มองความเป็นจริงของตัวมันเอง กล่าวคือ ตัวบ่งบอกหลักของภาษาในแง่ของความเป็นจริงก็คือ ภาษาและความจริง เป็นสิ่งที่ไม่ถาวร เพราะความจริงเป็นสิ่งที่สังคมสร้างขึ้น ดังนั้น ความจริงก็คือสิ่งที่เป็นปรากฏการณ์ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงและไม่มีความแน่นอน ภาษาจึงเป็นสิ่งที่ใช้อธิบายความจริงของตัวมันเอง
๓. โลกาภิวัตน์ และ การแบ่งส่วนย่อย (Globalization and segmentalism) แนวคิด ยุคหลังสมัยใหม่ มองความเป็นโลกไร้พรมแดน (Globalization) เสมือนว่าเป็นสังคมเดียวกันขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีการแบ่งส่วนย่อย หรือจำแนกเป็นกลุ่มต่างๆ (Segmentalism) เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน รวมถึงเกิดชุมชนแบบวิถีชีวิต (Life-style) ที่ปกติไม่ได้อาศัยอยู่ใกล้กัน แต่จะมารวมตัวกันตามโอกาส วิถีชีวิต และกิจกรรมที่ตัวเองชอบ แสดงให้เห็นถึงปรากฏการณ์ต่างๆ ที่แปรปรวน ไร้ทิศทาง และคาดเดาได้ยาก แต่ส่งผลกระทบและอยู่ภายใต้ในระบบสังคมโดยรวม
๔. ภาพลักษณ์ที่แยกกระจาย และ ขัดแย้งกัน (Fragmented and inconsistent image) เป็นการเติบโตของแนวทางใหม่อย่างไม่คาดฝันหลายๆ ทาง โดยไม่ขึ้นอยู่กับการเรียบเรียงเหตุการณ์ ชนิดของการเปิดเผยตัวแบบของการจัดลำดับชั้น และส่วนแยกย่อยของความเป็นจริง มีทิศทางที่จะปฏิเสธความต่อเนื่องกันของประเพณี และกัดเซาะความเที่ยงแท้ของการสร้างสังคมที่แท้จริง ซึ่งสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมากกว่าอดีต ไม่มีทั้งจุดเริ่มต้นหรือสิ้นสุด นอกจากนี้ Bergquist ยังกล่าวถึง สถานะทฤษฎีและการวิเคราะห์ของยุค Postmodern (The State of Postmodern Theory and Analysis) ว่าการจะมีปรากฏการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาในยุค Postmodern ซึ่งเต็มไปด้วยส่วนที่แตกแยกและภาพลักษณ์ที่ขาดเอกภาพ นำไปสู่คำถามที่ว่า โลกของเราจะสามารถคงอยู่ได้ในท่ามกลางสภาวะที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ได้หรือไม่?
ที่มา – “Postmodern Thought in a Nutshell: Where Art and Science Come Together” (William Bergquist)