ทิศทางนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี
ทิศทางนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี
Direction of Thai Basic Educational Policy and Planning
according to the 20-year National Strategy Framework
(ตอนที่ 1)
ดร.วสันต์ สุทธาวาศ : เรียบเรียง
บทคัดย่อ
ทิศทางนโยบายและ แผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของประเทศไทยตามกรอบ ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยจากการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง พบว่า ทิศทางการกำหนดนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐานดังกล่าว ควรมุ่งสู่การพัฒนาเด็กไทยให้มีความพร้อมรองรับการเป็นสังคมผู้สูงอายุและสังคมพหุวัฒนธรรม
และให้ความสำคัญต่อการพัฒนา ทักษะในศตวรรษที่ 21 กล่าวคือ ความสามารถในการอ่าน เขียน การคิดคำนวณ คิดวิเคราะห์ ความสามารถทางเทคโนโลยีและการสื่อสารด้วยภาษาต่างประเทศ ทั้งภาษาสากล และภาษาประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ ทักษะการเรียนรู้และการสร้างนวัตกรรม ตลอดจนทักษะสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี ด้วยการเข้ามามีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเป็นภาคีการศึกษาที่เข้มแข็ง การพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ และการวางรากฐานการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ สู่การพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน
“กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น..” ส่วนหนึ่งจากบทกวีนิพนธ์อมตะที่มีนัยสะท้อนการสั่งสมคุณค่าทางการศึกษาได้เป็นอย่างดี หากแต่พิจารณาในแง่มุมของการพัฒนาในปัจจุบันแล้ว ระบบการศึกษาควรจะเติบโตอย่างรวดเร็วควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาในบริบททางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ทั้งในระดับมหภาคและจุลภาค เพื่อเป็นรากฐานที่เข้มแข็งในการพัฒนาประเทศ ซึ่งจากสภาพจริง หลากหลายประเทศกลับต้องเผชิญกับช่องว่างของการพัฒนาดังกล่าว ส่งผลให้บุคลากรของชาติขาดศักยภาพที่เหมาะสม และนำไปสู่การขาดความแข็งแกร่งและยั่งยืนของพัฒนาในมิติต่างๆ (UNESCO, 2015) รวมไปถึงการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) และการให้คุณค่าที่ลึกซึ้งในสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ประเทศต่างๆ ต้องปรับตัวและพัฒนาหน่วยงานภายในประเทศ เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพทางการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง (Shafritz and Ott, 2001)
ประเทศไทยตกอยู่ท่ามกลางสภาวะดังกล่าวเช่นเดียวกัน ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐจำเป็นต้องปรับปรุงและพัฒนาการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ มีความทันสมัยสอดคล้องกับโลกยุคใหม่ เพื่อให้ระบบราชการมีความเข้มแข็ง (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ, 2556) โดยเฉพาะหน่วยงานด้านการศึกษาที่จำเป็นต้องแสวงหาดอกผลทางการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการที่รวดเร็ว และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกนวสมัย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตามกรอบการพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 ที่มุ่งเตรียมความพร้อมคน สังคม และระบบเศรษฐกิจของประเทศ ให้สามารถปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงได้ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนและสังคมไทยให้มีคุณภาพ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้วยฐานความรู้ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2556)
ตามทิศทางการก้าวเข้าสู่สังคมและเศรษฐกิจฐานความรู้ดังกล่าว จึงเป็นแรงผลักให้เกิดการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ที่มุ่งเน้นเรื่องของการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีบทบาทต่อวิถีชีวิตมนุษย์และพลโลกมากขึ้น โดยแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก ปี ค.ศ. 2020 นั้น เศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนแปลงเชื่อมโยงกับการศึกษาและการเรียนรู้ใน 5 ลักษณะสำคัญ คือ 1) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงประชากร และการเปิดเสรีทางการค้าจะมีมากขึ้น เศรษฐกิจจะเคลื่อนตัวสู่เอเชีย 2) ภาคอุตสาหกรรมและบริการ ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะมากขึ้น 3) คำนึงถึงความเป็นปัจเจก และความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ 4) การเคลื่อนย้ายของกลุ่มประชากร กลุ่มสตรีและผู้สูงอายุจะมีบทบาทในการทำงานมากขึ้น และ 5) การจัดการความรู้เข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่ม ตามแนวทางเศรษฐกิจฐานความรู้ (The Economist Intelligence Unit, 2006)
สอดรับกับแนวทางในการกำหนดทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ที่ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยในปัจจุบันยังคงประสบปัญหาในหลายด้าน เช่น ปัญหาผลิตภาพการผลิต ความสามารถในการแข่งขัน คุณภาพการศึกษา ความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป็นต้น ซึ่งทำให้การพัฒนาในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 จึงมุ่งเน้นการพัฒนาโดยให้คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยมีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา คือ การพัฒนาศักยภาพคนให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ ด้วยการศึกษาและการเรียนรู้ที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2559)
การพัฒนาศักยภาพคนให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ ด้วยการศึกษาและการเรียนรู้ที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพ
หากพิจารณาตามวิสัยทัศน์ของการพัฒนาประเทศเพื่อความยั่งยืน โดยที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 เห็นชอบให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ และได้กำหนดร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) คือ “ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาให้คนไทยมีความรู้ และตอบสนองต่อการบรรลุซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติ
ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้มี รายได้ระดับสูง นำไปสู่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เพื่อสร้างความสุขของคนไทยซึ่งอยู่ในสังคมที่มีความมั่นคง เสมอภาค และเป็นธรรม โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ 1) กำหนดแนวทางการพัฒนาของทุกภาคส่วนให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน 2) ถ่ายทอดแนวทางการพัฒนาสู่การปฏิบัติในแต่ละช่วงเวลาอย่างต่อเนื่องและมีการบูรณาการ 3) สร้างความเข้าใจถึงอนาคตของประเทศไทยร่วมกัน และเกิดการรวมพลังของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และประชาชน ซึ่งเป็นการกรุยทางไปสู่อนาคตประเทศไทยในปี 2579 คือ
1) เศรษฐกิจและสังคมไทยมีการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน 2) เศรษฐกิจขยายตัวด้วยการค้าส่งค้าปลีกและเศรษฐกิจดิจิทอลที่เข้มข้นขึ้น 3) คนไทยมีศักยภาพและสามารถปรับตัวรองรับบริบทการพัฒนาในอนาคต 4) สังคมไทยมีความเป็นธรรม มีความเหลื่อมล้ำน้อย 5) เศรษฐกิจและสังคมพัฒนาอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 6) ระบบการบริหารภาครัฐมีประสิทธิภาพ ทันสมัย รับผิดชอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และประชาชนมีส่วนร่วม ด้วยการขับเคลื่อน 6 ยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 2) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน 4) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม 5) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 6) ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ (สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, 2558)
ซึ่งล้วนมีจุดร่วมในการพัฒนา คือ การพัฒนาศักยภาพคนให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ โดยต้องมีการขับเคลื่อนองคาพยพครั้งใหญ่ ดังเช่นการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ที่มุ่งเน้นการแก้สภาพปัญหาในการจัดการศึกษาในส่วนภูมิภาคของประเทศที่เกิดจากปัญหาการสั่งการและการบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ และไม่เป็นเอกภาพเป็นปัญหาสำคัญ เพื่อให้สามารถประสานเชื่อมโยงและบูรณาการภารกิจในเรื่องการศึกษาของประเทศ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้สอดรับกับแนวทางการบริหารงานโดยประชารัฐ อันจะส่งผลในการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน (ราชกิจจานุเบกษา, 2559)
อ่านต่อ : ทิศทางนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (ตอนที่ 2)